ใครกันแน่ที่บ้า “โลก” หรือ “Joker”

ถ้าหากพูดถึงตัวละคร Joker ทุกคนคงต้องรู้อยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะว่า ตัวละคร Joker นั้นคือตัวละครตลกที่มีความบ้าผสมความโรคจิต และมีบุคลิกที่เด่นชัดคือ ยิ้มและหัวเราะตลอดเวลา แต่ยังแฝงด้วยความชั่วร้ายต่างๆมากมายจนทำให้เขากลายเป็นตัวร้ายในสายตาของคนอื่น โจ๊กเกอร์ถือกำเนิดครั้งแรกในสื่อสิ่งพิมพ์การ์ตูนเรื่อง แบทแมน ในปี.. 1940 หลังจากนั้นก็มีการปรากฏตัวทั้งในภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ การ์ตูน และวิดีโอเกม จนมาถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นตัวละครที่มีบทบาทมาอย่างยาวนาน ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงความบ้าของตัวละครโจ๊กเกอร์ในฉบับภาพยนตร์กัน มีด้วยกันหลักๆด้วยกันอยู่ 3 เรื่อง

ขอเริ่มเรื่องด้วยการเกริ่นนำเรื่องราวความบ้าในภาพยนตร์ฉบับแรกๆกันก่อนเลย เริ่มด้วยภาพยนตร์

The Dark Knight (2008)

รับบทตัวแสดงโดย Heath Ledger โดยในภาคนี้ไม่ได้มีข้อบ่งชัดว่าสิ่งใดเป็นสาเหตุทำให้โจ๊กเกอร์ถึงได้เป็นคนบ้าระห่ำถึงเพียบนี้ แต่โจ๊กเกอร์ในภาพยนตร์ The Dark Knight ได้มีความเชื่อหรือปรัชญาของเขาว่า โลกแห่งความจริงคือโลกที่โหดร้าย ทุกคนล้วนมีด้านมืดในจิตใจ เพียงแต่ว่าบริบทของสังคมจะเป็นตัวกำหนดธาตุแท้ของมนุษย์เมื่อมนุษย์ถึงคราวจนตรอกสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นความคิดความเชื่อลึกๆของตัวโจ๊กเกอร์เองถึงแม้ว่าในเรื่องจะไม่ได้มีการบ่งบอกที่มาที่ไปของความชั่วร้ายในตัวโจ๊กเกอร์อย่างแน่ชัดก็ตาม แต่ความเชื่อของเขามันบอกได้เลยว่าสิ่งที่เขาเป็นมันเกิดขึ้นจากความเลวร้ายของมนุษย์ด้วยกันเองทั้งนั้น

Suicide Squad (2016)

รับบทตัวแสดงโดย Jared Leto ในภาคนี้บทบาทของโจ๊กเกอร์นั้นไม่ค่อยได้มีผลต่อเรื่องโดยตรงมากนัก เพราะในเรื่องนี้โจ๊กเกอร์มาปรากฏตัวอยู่บนหน้าจอราวๆ 15 นาที เท่านั้น ในเรื่องนี้โจ๊กเกอร์มาคู่กับหญิงสาวผู้หลงไหลในตัวเขาอย่าง Harley Quinn ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาบ่งบอกอย่างชัดเจนเหมือนกัน ว่าเขามีความคิดที่ชั่วร้ายแบบนี้ได้อย่างไร แต่เมื่อดูให้ลึกๆแล้วในเรื่องคนที่ทำดีกับโจ๊กเกอร์มากที่สุดก็คือ ฮาร์ลีย์ ควินน์ ซึ่งเราก็ได้เห็นถึงมุมดีๆของโจ๊กเกอร์ที่มีต่อ ฮาร์ลีย์ มากเช่นกันในภาคนี้ อย่างฉากที่ ฮาร์ลีย์ โดดลงไปในถังสารเคมีและโจ๊กเกอร์ก็กระโดดตามลงไป แถมยังมีฉากที่วางแผนช่วย ฮาร์ลีย์ ออกจากคุกอีกด้วย ซึ่งก็ทำให้เห็นเลยว่าคนเรามักมี สองด้านเสมอตัวโจ๊กเกอร์เองไม่ได้อยากทำร้ายใครตั้งแต่แรกแต่อาจเพราะสังคมเองทำให้เขาเป็นเช่นนี้ก็เป็นได้

Joker (2019)

มาถึงจุดที่เรียกว่าไฮไลท์ของเรานั้นก็คือ Joker (2019) นั้นเอง เรื่องนี้รับบทตัวแสดงโดย Joaquin Phoenix เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ค่อนข้างหดหู่ และตึงเครียดมากเลยทีเดียว โดยทั้งหมดยังเป็นการนำเสนอโจ๊กเกอร์ในฉบับที่คุมเครือเหมือนเดิม การตีแผ่นหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยเบื้องหลังประเด็นสังคมที่เสื่อมทรามและด้านมืดของโลกใบนี้ ขณะที่ความยุติธรรมเองก็มีความไม่เท่าเทียมกัน มีให้เห็นอยู่ในทั่วไปไม่ต่างจากในโลกความจริงของเราเอง ในบางครั้งโลกมันก็โหดร้ายกับเรามากเกินไปถึงแม้ความจริงแล้วโลกก็ยังมีความสวยงามอยู่มาก แต่ในหนังเรื่องนี้คือต้องการจะสื่อและแสดงให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมและเลวร้ายของสังคมในปัจจุบันและมันก็แสดงให้เห็นว่าความจริงแล้วทุกคนมีความบ้าอยู่ในตัวกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าใครจะแสดงออกมาเช่นไร และรับมือกับมันอย่างไร เหมือนที่โจ๊กเกอร์เองเลือกแสดงออกมาอย่างในหนังเรื่องนี้ ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มและหัวเราะตลอดเวลาของเขา แต่ความคิดและความเชื่อภายในกลับป่นปี้เละแทะเกินกว่าที่คนๆนึงจะรับไหว