เราสามารถฆ่าคนได้ทั้งที่หลับอยู่!?

[pinterest-gallery columns=”1″ images=”3027″ adjust=”yes”]

คดีฆาตกรนอนละเมอ ไม่ได้มีเพียงแค่ในซีรีย์หรือในหนังเท่านั้น เพราะคดีแบบนี้เกิดมาแล้วกว่า 70 ครั้งทั่วโลก

หลายคนอาจจะรู้จักภาวะนอนละเมอแบบพื้นฐาน เช่น นอนกัดฟัน นอนพูดคนเดียวทั้งที่ตาปิด นอนร้องโวยวาย แต่บางคนก็มีอาการมากกว่าปกติ ทั้งลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ พูดคุยกับคนในบ้านราวกับตื่นอยู่ บางคนถึงขั้นลุกขึ้นมาทำอาหารกิน รวมไปถึง มีเซ็กส์กับคนแปลกหน้า

ส่วนใหญ่การนอนละเมอจะเกิดขึ้นในตอนที่หลับลึก ซึ่งเป็นช่วงที่สติสัมปชัญญะต่ำ แต่ร่างกายกลับลุกขึ้นมาทำกิจกรรมต่างๆปกติ สาเหตุอาจมาจากปัจจัยกระตุ้นหลายประการ เช่น พักผ่อนน้อย โรคเครียด การหยุดกินยาบางชนิด หรือฤทธิ์ของสุราหรือยาเสพย์ติด ทั้งนี้ ยังเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมอีกด้วย

ผู้ที่ละเมอลุกขึ้นมาทำกิจกรรมต่างๆ มักจะจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือตัวเองทำอะไรลงไป และจะรู้ตัวในตอนที่ได้เห็นสิ่งที่ตนเองกระทำแล้ว เช่น หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งละเมอลุกขึ้นแต่งตัวออกจากบ้าน เพื่อไปมีเซ็กส์กับคนแปลกหน้าในทุกคืน โดยที่เธอไม่รู้ตัว แม้กระทั่งสามีที่นอนข้างๆกันก็ไม่รู้ จนกระทั่งเธอพบเจอถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว(ขนาดละเมอยังมีสติใช้ถุงยางได้) จึงได้รับรู้ถึงพฤติกรรมของตนเอง และเริ่มเข้าพบจิตแพทย์เพื่อบำบัด

ลองจินตนาการว่า ถ้าคุณตื่นขึ้นมา พบกว่ามือตัวเองแดงฉานไปด้วยเลือด คุณจะทำอย่างไร

ภาพนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก เช่น คดีของเคนเนธ ปาร์ค ปาร์คคือคุณพ่อวัยกลางคน มีลูกสาวกำลังน่ารัก ชีวิตครอบครัวของเขาปกติสุขดี นอกจากเรื่องที่เขาเสพย์ติดการพนันจนทำให้มีเรื่องหนี้สินแล้ว เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคนในครอบครัวมากมายนัก แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็ตื่นขึ้นในสถานีตำรวจ และเขาเพิ่งสารภาพว่าเขาฆ่าคนตาย….

อาจจะด้วยความเครียดเรื่องหนี้พนัน ความกลัวความผิดการยักยอกเงินในบริษัท หรือเหตุผลอื่นใดประกอบ ปาร์คลุกจากเตียงในกลางดึก ขับรถเป็นระยะทาง 23 กิโลเมตร มุ่งหน้าไปยังบ้านของพ่อตาแม่ยาย จากนั้นจึงแทงพ่อตาที่ลงมาเปิดประตูและกระหน่ำแทงแม่ยายจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา สุดท้ายแล้วเขาเดินทางไปสถานีตำรวจทั้งที่ยังอยู่ในอาการละเมอ และสารภาพความผิดตนเองกับทางตำรวจ

ท้ายที่สุดแล้ว หลังการสอบสวนหลายต่อหลายครั้ง เขาถูกตัดสินว่าไม่มีความผิด เนื่องจากขาดแรงจูงใจ อีกทั้งยังทำไปโดยไม่มีสติสัมปชัญญะ

แต่ในบางครั้ง เหล่าคนที่ยังมีสติก็ทำใจเชื่อลำบากว่า ฆาตกรอยู่ในภาวะละเมอหรือแกล้งละเมอ คดีหนึ่งในสเปน เล่าถึง ผู้ชายที่ตื่นขึ้นมากลางดึก ฆ่าภรรยาและแม่ของตนเองด้วยขวาน ลูกชายและลูกสาวของเขาตื่นขึ้นมาเห็นเหตุการณ์ ชายคนนั้นจึงโจมตีลูกทั้งสองคน ลูกสาวแกล้งทำเป็นเสียชีวิต ส่วนลูกชายก็เข้าต่อสู้จนปลดอาวุธพ่อได้สำเร็จ ชายผู้นั้นให้การในชั้นศาลว่าเขาอยู่ในภาวะละเมอ ทว่าลูกทั้งสองคนของเขาต่างก็ยืนยันว่า พ่อมีสติสัมปชัญญะและสั่งห้ามพวกเขาไม่ให้เปิดไฟ เพราะกลัวย่าที่กำลังนอนหายใจรวยรินจะตื่น

เขาถูกสั่งให้รักษาในโรงพยาบาลประสาท และไม่ได้รับอนุญาตให้พบเจอหรือพูดคุยกับลูกๆอีกเลย ไม่มีใครรู้ว่า แท้จริงแล้วนี่คือความตั้งใจของเขาหรือเป็นโรคละเมอจริงๆ

ชายคนหนึ่งในอังกฤษตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วพบว่า ตนเองกำลังใช้ค้อนกระหน่ำทุบลงบนศีรษะของภรรยา แทนที่เขาจะหยุดการกระทำ เขายังทุบต่อไปและใช้มีดจ้วงแทนจนเธอขาดใจตาย ทั้งที่เขาตื่นจากการละเมอแล้ว

[pinterest-gallery columns=”1″ images=”3028″ adjust=”yes”]

สมองของเรามีการทำงานที่ซับซ้อนมาก หลายครั้งที่เราไม่สามารถควบคุมการกระทำอันเกิดขึ้นของตนเองได้ บางครั้งปราศจากเหตุผล จึงไม่ใช่ทุกครั้งที่มีคำตอบให้กับคำถาม ซึ่งก็ยังคงเป็นปริศนาของวงการวิทยาศาสตร์

คำถามคือ แน่ใจหรือว่า นั่นคือการลงมือโดยไม่มีสติจริงๆ

ในแต่ละประเทศ มีกฎหมายบัญญัติเกี่ยวกับบทลงโทษของการเดินละเมอและฆ่าคนแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่ หากพิสูจน์แล้วว่าเป็นภาวะทางจิต นั่นคือ ทำไปโดยขาดแรงจูงใจ (ไม่ได้เกลียดหรือเคียดแค้นต่อกัน) มักจะส่งตัวฆาตกรไปบำบัดและไม่ได้รับโทษอะไร

การอ้างภาวะละเมอของจำเลยในคดีฆาตกรรม ถูกใช้กล่าวอ้างมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ถึงอย่างนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับบางคน ยังไม่เชื่อว่า การละเมอลุกขึ้นมาฆ่าคนโดยปราศจากสติสัมปชัญญะนั้นเป็นเรื่องจริง

จำเลยเหล่านั้น เป็นเหยื่อผู้บริสุทธิ์ เพราะภาวะผิดปกติของการนอนหลับ หรือ เป็นเพียงฆาตกรคนหนึ่งที่มีความตั้งใจและใช้ความเจ็บป่วยด้านการนอนของตนเองเป็นข้ออ้าง

ไม่มีใครล่วงรู้ความจริงข้อนี้ได้…..