เมื่อพูดถึงเทศกาลกินเจ คนไทยอย่างเราก็คงจะคิดว่าเป็นเทศกาลของจีน และคงต้องมาจากประเทศจีนแน่ๆ แต่ถ้าหากใครได้ลองไปเที่ยวที่ประเทศจีนแล้วล่ะก็ คงต้องผิดหวังกันเลยทีเดียวล่ะค่ะ เพราะเทศกาลกินเจไม่ได้นิยมกินกันแพร่หลายเหมือนอย่างคนในประเทศไทย
[pinterest-gallery columns=”1″ images=”3211″ adjust=”yes”]
สาเหตุเพราะว่า จุดกำเนิดของเทศกาลกินเจมาจากชาวจีนฮกเกี้ยนและแต้จิ๋ว อยู่ในมณฑลฟูเจี้ยนเท่านั้น จึงเป็นเทศกาลเฉพาะถิ่น ไม่ได้เป็นเทศกาลที่แพร่หลายไปทั่วประเทศ ซึ่งชาวจีนในละแวกนี้ ก็มักอพยพย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์และภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งจะไม่เรียกเทศกาลนี้ว่าเทศกาลกินเจแต่จะเรียกว่าเทศกาลเฉลิมฉลองของพระราชาธิราชทั้ง 9 เป็นประเพณีแบบลัทธิเต๋ารวม 9 วัน กำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือ เริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำถึง ขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี
[pinterest-gallery columns=”1″ images=”3212″ adjust=”yes”]
หลังจากชาวจีนกลุ่มนี้อพยพมาในประเทศไทย จึงนำเอาเทศกาลกินเจติดมาด้วย และมีการผสมผสานรูปแบบและความเชื่อจากท้องถิ่นของไทย กลายมาเป็นเทศกาลกินเจแบบเฉพาะของลูกหลานชาวจีนในประเทศไทย สำหรับเมืองไทยความเชื่อเรื่องการกินเจ เป็นไปในแนวทางของการละเว้นการเอาชีวิตของสัตว์ เพื่อเป็นการสักการบูชาแก่พระพุทธเจ้าและมหาโพธิสัตว์กวนอิม อาจเนื่องจากการแพร่หลายของการละเว้นการกินเนื้อวัวในกลุ่มคนที่นับถือ“เจ้าแม่กวนอิม” การกินเจ จึงเป็นอีกหนึ่งพิธีกรรม เพื่อสักการะ ส่วนในประเทศจีนนั้นเทศกาลนี้กลับหายไป เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านการปกครองสู่คอมมิวนิสต์ รัฐบาลได้ทำลายหนังสือเรียนและเกือบทุกอย่างที่เกี่ยวกับพิธีกรรมทางศาสนา จนค่อยๆเลือนหายไปจากจีนแผ่นดินใหญ่ในที่สุด
เทศกาลกินเจจึงกลายเป็นเทศกาลที่ไม่ได้แพร่หลายในประเทศจีน แต่กลับเป็นเทศกาลที่เรียกได้ว่าแพร่หลายอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะคนไทยที่มีเชื้อสายจีนแต่ก็ยังมีคนไทยบางกลุ่ม ที่ไม่ได้เป็นเชื้อสายจีนให้ความนิยมกับเทศกาลนี้ เนื่องจากการกินเจไม่ได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาสนาหรือการนับถือเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการกินเพื่อสุขภาพและเพื่อละเว้นการทำบาป
ชาวทีมงานข่าวโซเชี่ยล จึงอยากชวนทุกๆคนทั้งชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน หันมารับประทานอาหารเจกันค่ะเพื่อที่จะได้มีสุขภาพที่แข็งแรงแถมยังได้บุญอีกด้วยน้าา
